9 สิ่งที่ต้องทำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในบ้านที่อาจเกิดกับเด็ก

คุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปหลังจากคลอดลูก’ ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัวรวมถึงเรื่องบ้าน โดยเฉพาะเรื่องบ้านที่กว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพราะบ้านถือเป็นสถานที่ที่แรกที่เด็กจะได้ใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้ในการปฏิบัติตัว ว่ามีอะไรบ้างที่เล่นได้และอะไรที่ไม่ควรซน เราคงไม่แนะนำให้ย้ายของทุกชิ้นที่มีออกจากบ้านเพียงเพราะคุณมีลูกเล็กหรือใกล้จะคลอด เพียงแต่ต้องเตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น 4 อย่างที่ต้องมีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน อุปกรณ์สำหรับป้องกันการบาดเจ็บที่นิ้วมือ เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งได้ง่าย เพียงแค่เอาไปติดไว้กับประตู และสามารถหยิบใช้ได้สะดวก แถมยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับประตูที่บางกว่าปกติ ประตูป้องกันเด็กไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ต่างๆ สามารถช่วยลดอันตรายต่อเด็ก โดยการกั้นไม่ให้เด็กเข้าห้องครัวใกล้เตาร้อนๆ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้ล็อคบานตู้ไม่ให้เด็กเปิดตู้เองได้ เพื่อป้องกันเด็กโดนตู้หนีบนิ้ว ยางติดขอบโต๊ะ ควรติดแผ่นยางตามมุมโต๊ะเพื่อป้องกันลูกเดินชนหรือกระแทก ในกรณีมีแผ่นกระจกวางไว้บนโต๊ะควรย้ายออกไปไว้ที่อื่นก่อนชั่วคราวจนกว่าลูกจะโต ชั้นวางหนังสือและลิ้นชักใส่เสื้อผ้าแบบยึดติดกับผนัง เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์คว่ำได้ง่าย เวลาลูกปีนป่ายอาจถูกล้มทับได้ง่าย 9 สิ่งที่ต้องทำเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน เวลาเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับเด็กควรได้มาตรฐาน เช่น เตียง ชิงช้า รถเข็น ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเลือกอุปกรณ์และของใช้สำหรับเด็กที่ได้มาตรฐาน ซึ่งถูกออกแบบและทดสอบเพื่อความปลอดภัยของเด็ก เก็บสายไฟ และวัตถุชิ้นเล็กที่เด็กสามารถกลืนลงคอให้พ้นมือเด็ก เพราะในช่วงที่ฟันของลูกน้อยกำลังจะขึ้น เด็กจะคันเหงือกและอยากกัดทุกอย่างที่คว้าได้ เก็บผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มักมีสีสันสดใสและกลิ่นหอมให้พ้นมือเด็ก เนื่องจากน้องๆ หนูๆ ยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างน้ำผลไม้และน้ำยาทำความสะอาด ดังนั้นจึงควรเก็บให้พ้นมือเด็ก ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หน้าต่างควรมีที่ล็อคอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันเด็กพลัดหล่นจากตึก นอกจากนี้ไม่ควรวางเตียงเด็กหรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ไว้ใกล้หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ เพราะ เด็กอาจปีนป่ายและตกตึกได้ […]

เลือกบ้านในแบบของคุณ