จะดีกว่านี้ไหมถ้าต้นไม้ที่เราปลูกจะช่วยฟอกอากาศในบ้าน แถมยังเพิ่มความเขียวขจีให้บริเวณรอบบ้านอีกด้วย รวมไปถึงช่วยแก้ปัญหากลิ่นเหม็นจากสีทาบ้าน เฟอร์นิเจอร์ หรือกลิ่นไม่ถึงประสงค์ในห้องน้ำได้ด้วย นอกจากจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นแล้ว จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอีกด้วย เพราะสีที่ทาบ้านและเฟอร์นิเจอร์มีส่วนประกอบของสารฟอร์มัลดีไฮด์ ไซลีน และโทลูอีน ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังและดวงตา ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ ซึ่งถ้าเราได้รับสารเหล่านี้มากๆในระยะยาว อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ เราเลยมี 5 ต้นไม้ที่เป็นตัวช่วยในการฟอกอากาศบริเวณบ้านมานำเสนอกัน
1.โหระพาไทยที่เราคุ้นเคย เป็นพืชที่อยู่กับคนไทยมานานมาก ว่าแต่จะมีคนรู้ถึงคุณสมบัติของเจ้าตัวนี้หรือไม่ เจ้าตัวนี้มีคุณสมบัติในการใช้ก๊าซอันตรายจำพวกฟอร์มัลดีไฮด์เพื่อสังเคราะห์แสงและจะปล่อยก๊าซออกซิเจนคืนกลับมา แถมกลิ่นของโหระพายังช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย เหมาะแก่การปลูกที่บริเวณระเบียงหรือริมหน้าต่างนะ
2.พืชสมุนไพรที่มีชื่อว่า “ว่านหางจระเข้” แน่นอนว่าต้นนี้ต้องมีสารพัดประโยชน์แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการนำมารักษาแผลและโรคต่างๆ ดูดซับสารพิษจากร่างกายพวกฟอร์มัลดีไฮด์ที่เป็นสาเหตุของการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ไปจนถึงโรคหอบหืดอีกด้วย เราสามารถปลูกไว้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึงและอย่าลืมรดน้ำเป็นประจำ
3.ไม้ประดับอย่าง “ต้นพลูด่าง” เรียกได้ว่าเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันมากที่สุดเลยทีเดียว เพราะเลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงในห้องน้ำหรือสำนักงานทั่วไป โดยพลูด่างไม่ได้เติบโตในที่แสงน้อยเท่านั้น แต่ยังเติบโตได้ด้วยสารพิษจำพวกแอมโมเนียที่มักมีมากในห้องน้ำ หรือในสำนักงานที่มีเครื่องถ่ายเอกสารหรือเครื่องพิมพ์เขียวได้ดีอีกด้วย แถมพลูด่างยังสามารถระคายความชื้นออกมาโดยทำให้อากาศไม่แห้งจนเกินไปอีกด้วย
4.เฟิร์นดาบออสเตรเลีย ด้วยความที่ใบเฟิร์นมีขนาดค่อยข้างใหญ่ แถมยังช่วยทำความสะอาดอากาศได้ดี โดยมีความสามารถในการดูดสารพิษประเภทฟอร์มัลดีไฮด์ ไซลีน และโทลูอีน ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นภายในอาคารได้ดีอีกด้วย วิธีการดูแลคือควรรดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอและไม่ควรปลูกในบริเวณที่รับแสงอาทิตย์โดยตรง
5.ไม้ดอกไม้ประดับ อย่างเช่น “เบญจมาศ” ดอกไม้ที่มีสีดอกที่สวยงาม นอกจากจะนำมาประดับบริเวณบ้านได้แล้ว ยังมีความสามารถในการดูดสารพิษประเภทฟอร์มัลดีไฮด์ที่แฝงตัวอยู่ในน้ำยาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ หรือน้ำยาทาเล็บ รวมไปถึงเบนซีนที่อยู่ในสีย้อมผ้า วิธีการดูแลคือวางไว้บริเวณแสดงแดดและรดน้ำเพียงวันละครั้งโดยรดบริเวณรากเพื่อป้องกันใบเป็นเชื้อรา
AUTHOR
ณัฐวดี คงสมบูรณ์
Content Creator Above All Online Marketing Services
GRAPHIC DESIGNER
ณัฐพงศ์ จริยะนันตกุล
Graphic Design Director Above All Online Marketing Services